ในตอนที่ 1 ผมได้เล่าถึงมุมมองของการติดตามของผู้บริหารกับความเสี่ยง รวมทั้งการตรวจสอบด้านกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยง ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งและเกี่ยวข้องกับศักยภาพของการแข่งขัน และการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจ และในบางกรณีจะเกี่ยวข้องกับการอยู่รอดของธุรกิจอย่างสำคัญ
วัตถุประสงค์ในการกำกับและติดตามการบริหารความเสี่ยงด้านกลยุทธ์ รวมทั้งบางมุมมองของการตรวจสอบนั้น ก็เพื่อให้องค์กรทั้งระบบมีความมั่นคงเข้มแข็ง โดยในการกำกับและการตรวจสอบภายในขององค์กร ซึ่งอาจจะรวมถึงบางมุมมองจากผู้กำกับของหน่วยงานภายนอก ก็อาจจะใช้แนวทางต่อไปนี้ในการประเมินความเข้มแข็งในการบริหารองค์กร ด้านต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1. ฐานะการเงิน และผลการดำเนินงาน
2. ประเภทและระดับของความเสี่ยง และผลกระทบที่มีต่อผลการดำเนินงาน
3. บทบาทของผู้บริหาร ความรู้ความเข้าใจ การติดตาม และควบคุมความเสี่ยง
4. ความเพียงพอของระบบบริหารความเสี่ยงที่จะรองรับความเสี่ยงที่มีอยู่
การติดตามและการกำกับ รวมทั้งมุมมองในการตรวจสอบยุคใหม่ขององค์กรต่าง ๆ ในปัจจุบันนั้น เป็นการติดตามกระบวนการบริหารความเสี่ยง และการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง กล่าวคือ เมื่อมีการติดตามและกำกับโดยฝ่ายบริหาร ซึ่งเป็นเรื่องปกติแล้ว สายงานตรวจสอบก็ยังต้องติดตามตรวจสอบคุณภาพการบริหารความเสี่ยงของฝ่ายบริหาร เพื่อประเมินผลสัมฤทธ์ในมุมมองต่าง ๆ ตามหลักการของ Business Balance Scorecard และในกรณีที่สายงานตรวจสอบพิจารณาว่า การบริหารความเสี่ยงในบางมุมมองขององค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การบริหารความเสี่ยงทางด้านกลยุทธ์ ที่จะเชื่อมโยงไปยังทุกมุมมองของผลสัมฤทธ์ที่องค์กรต้องการนั้น ยังมีจุดอ่อนที่อาจปรับปรุงได้ ก็จำเป็นจะต้องเพิ่มความถี่และระยะเวลาในการตรวจสอบ
ตัวอย่างในเรื่องนี้ก็คือ ผู้บริหารและผู้ตรวจสอบไม่เข้าใจสาระความสำคัญของความเสี่ยงด้านกลยุทธ์ ที่มีผลกระทบต่อมูลค่าของกิจการในระยะยาว ไม่มีการวัด ติดตาม และควบคุมความเสี่ยงอย่างเพียงพอ และอย่างทันเวลา เครื่องมือและวิธีวัดความเสี่ยง ไม่เพียงพอและไม่เหมาะสมกับขนาดและความซับซ้อนของธุรกิจ ก็จะมีผลอย่างสำคัญต่อการวางแผนการตรวจสอบ โดยรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบในภาพโดยรวม (Risk Universe) เพื่อการตรวจสอบการบริหารความเสี่ยงในมุมมองต่าง ๆ ที่เหมาะสมมากยิ่งขึ้น
การติดตามกระบวนการบริหารความเสี่ยง และการปฏิบัติงานตรวจสอบโดยทั่วไปนั้น เป็นที่เข้าใจตรงกันแล้วว่า ผู้บริหารและผู้ตรวจสอบจะคำนึงถึงผลกระทบจากความเสี่ยง และความเหมาะสมของระบบบริหารความเสี่ยง ซึ่งแตกต่างจากการตรวจสอบเพียงฐานะการเงิน หรือผลการดำเนินงาน ณ ปัจจุบันเท่านั้น
ทั้งนี้ เพื่อที่จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงทีก่อนที่เกิดความเสียหายหรือความเสียหายลุกลามจนยากแก่การควบคุม
ในการประเมินความเสี่ยงและความเหมาะสมของระบบบริหารความเสี่ยง ผู้บริหารและผู้ตรวจสอบพึงตระหนักว่า กำไรเกิดจากความเสี่ยง กล่าวคือ หากองค์กรไม่ยอมรับความเสี่ยงก็จะไม่สามารถทำกำไรตามกลยุทธ์ที่กำหนดไว้ได้
ดังนั้น การมีความเสี่ยงสูงไม่ได้หมายถึงไม่ดี หรือการมีความเสี่ยงต่ำไม่ได้หมายความว่าดี ดีหรือไม่ดีนั้น ขึ้นอยู่กับว่าองค์กรมีระบบบริหารความเสี่ยงที่สามารถจัดการความเสี่ยงที่มีอยู่ได้หรือไม่ องค์กรไม่ควรทำธุรกรรมที่มีความเสี่ยงมากจนเกินกว่าที่จะจัดการได้ และควรระมัดระวังในการดำเนินธุรกรรมที่ไม่ชำนาญ หรือมีความรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องเพียงเล็กน้อย เพราะอาจเกิดผลกระทบต่อความสามารถหรือขาดทุนจำนวนมากในภายหลัง ในขณะเดียวกัน องค์กรควรพัฒนาหรือจัดให้มีระบบบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมกับปริมาณ ความ ซับซ้อน และประเภทของธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง
ตอนต่อไปผมจะได้เล่าถึงกระบวนการติดตามการบริหารความเสี่ยง และการตรวจสอบในภาพโดยรวม ก่อนที่จะก้าวสู่การกำกับและการบริหาร รวมทั้งการตรวจสอบทางด้านกลยุทธ์ต่อไปตามลำดับนะครับ

