วันนี้ผมจะมาเล่าเนื้อหาบางประการที่เกี่ยวข้องกับ หลักเกณฑ์การพิจารณาให้ความเห็นชอบ การแต่งตั้งกรรมการ ผู้จัดการ ผู้มีอำนาจในการจัดการ หรือที่ปรึกษาของสถาบันการเงิน ของ ธปท. ซึ่งเป็นผู้กำกับที่เข้มแข็ง และกำหนดแนวทางในการบริหารและการจัดการที่ค่อนข้างชัดเจน เพื่อชี้ทิศทางให้สถาบันการเงินก้าวไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ผมจะขอเล่าอย่างสรุปในเรื่องของคุณสมบัติของกรรมการฯ ดังนี้
คณะกรรมการฯ ต้องมีความซื่อสัตย์ สุจริตและชื่อเสียง (Honesty, Integrity and Reputation) เป็นไปตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ (Competence, Capability and Experiences) ที่จำเป็นและเหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ที่รับผิดชอบในระดับที่ผู้ประกอบวิชาชีพการเงินการธนาคารพึง มี และต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม เช่น เป็นผู้ที่เคยมีการทำงานที่แสดงถึงการขาดมาตรฐานทางบัญชี มาตรฐานการบริหารความเสี่ยง หรือมาตรฐานทางวิชาชีพอื่น ๆ ในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งกำหนดโดยหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานกำหนดมาตรฐานอื่น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น การอำพรางฐานะทางการเงิน หรือผลการดำเนินงานที่แท้จริง การจงใจหลีกเลี่ยงการเปิดเผยข้อมูลในประเด็นอันเป็นสาระสำคัญ การถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ เป็นต้น
กรรมการ ผู้จัดการ ผู้มีอำนาจในการจัดการ หรือที่ปรึกษาของสถาบันการเงินจะต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามที่เกี่ยวกับประเด็นด้านสถานะทางการเงิน (Financial Soundness) เช่น ไม่มีปัญหาในการชำระเงินต้น หรือดอกเบี้ยกับสถาบันการเงิน หรือบริษัทที่ให้สินเชื่อ หรือเข้าข่ายจัดชั้นเป็นลูกหนี้ชั้นต่ำกว่ามาตรฐาน ชั้นสงสัย ชั้นสงสัยจะสูญ หรือสูญ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ข้อยกเว้นเกี่ยวกับลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 24 (7) (ข) แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551
เพื่อให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสถาบันการเงินแบบรวมกลุ่ม (Consolidated Supervision) ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงอนุญาตให้ผู้จัดการ หรือผู้มีอำนาจในการจัดการของบริษัทที่ได้รับสินเชื่อ ได้รับการค้ำประกัน หรืออาวัล หรือมีภาระผูกพันอยู่กับสถาบันการเงินนั้น และเป็นบริษัทที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจทางการเงินเดียวกันกับสถาบันการเงิน สามารถเป็นหรือทำหน้าที่กรรมการ ผู้จัดการ ผู้มีอำนาจในการจัดการ หรือที่ปรึกษาของสถาบันการเงินนั้นได้
ในกรณีที่สถาบันการเงินมีความจำเป็นจะต้องส่งกรรมการ ผู้จัดการ หรือผู้มีอำนาจในการจัดการของสถาบันการเงินของตนเข้าไปกำกับดูแลบริษัทที่ได้รับสินเชื่อ หรือได้รับการค้ำประกัน หรืออาวัล หรือมีภาระผูกพันอยู่กับสถาบันการเงินนั้น สมควรอนุญาตให้สถาบันการเงินสามารถส่งกรรมการฯ ไปเป็นผู้จัดการ หรือผู้มีอำนาจในการจัดการของบริษัทที่ได้รับสินเชื่อหรือได้รับการค้ำประกัน หรืออาวัล หรือมีภาระผูกพันอยู่กับสถาบันการเงินนั้นได้
หรืออีกนัยหนึ่ง ธนาคารแห่งประเทศไทยอนุญาตให้ผู้จัดการ หรือผู้มีอำนาจในการจัดการของบริษัทที่ได้รับสินเชื่อหรือได้รับการค้ำประกัน หรืออาวัล หรือมีภาระผูกพันอยู่กับสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งมาจากสถาบันการเงิน สามารถเป็นหรือทำหน้าที่กรรมการ ผู้จัดการ ผู้มีอำนาจในการจัดการ หรือที่ปรึกษาของสถาบันการเงินนั้นได้ เพราะเหตุแห่งความจำเป็นที่จะต้องกำกับดูแลลูกหนี้ดังกล่าว
สำหรับเนื้อหาที่เป็นรายละเอียดอื่น ๆ ของหลักเกณฑ์การพิจารณาให้ความเห็นชอบการแต่งตั้งกรรมการฯ นอกเหนือจากที่ผมได้สรุปในบางประการข้างต้นแล้ว ท่านผู้อ่านสามารถติดตามได้จากประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สนส. 14/2552 ครับ
โพสต์โดย Metha Suvanasarn 
