IT Governance & Control Objective to Environmental Control (ต่อ)

เมษายน 9, 2009

จากครั้งก่อนที่ได้กล่าวถึงกิจกรรมด้าน IT Governance โดยสรุปไปแล้ว ครั้งนี้ผมจะนำเสนอแนวทางในการกำหนดกิจกรรมหลักของ IT Governance ต่อเลยครับ

การที่จะประสบความสำเร็จในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ ธรรมาภิบาลขององค์กร และ IT Governance ไม่สามารถแยกกันหรือใช้กฎเกณฑ์ที่แตกต่างกันได้อีกต่อไป ธรรมาภิบาลขององค์กรที่มีประสิทธิภาพ มุ่งเน้นความชำนาญและประสบการณ์ทั้งปัจเจกบุคคลและของหมู่คณะ ซึ่งก่อให้เกิดผลสูงสุด เฝ้าติดตามและวัดผลการดำเนินงาน และรับประกันการแก้ปัญหาวิกฤต เทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งเดิมได้รับการพิจารณาว่าเป็นเพียงปัจจัยหนุนกลยุทธ์ของธุรกิจมาเป็นเวลานาน ปัจจุบันได้รับการพิจารณาให้รวมอยู่เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของธุรกิจ

IT Governance มีโครงสร้างที่เชื่อมโยง กระบวนการทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT process) ทรัพยากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT resource) และสารสนเทศ (Information) ควบคู่ไปกับกลยุทธ์และวัตถุประสงค์ของธุรกิจ IT Governanceได้รวบรวมและจัดให้มีวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการวางแผนและการจัดองค์กร การจัดหาและการนำระบบออกใช้งานจริง การส่งมอบและการสนับสนุน และการเฝ้าติดตามการดำเนินงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ IT Governance ถูกรวมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในธรรมาภิบาลขององค์กร โดยรับประกันในเรื่องการปรับปรุงที่สามารถวัดผลได้ทางด้านประสิทธิภาพและประสิทธิผลของกระบวนการทางธุรกิจ IT Governance ช่วยให้องค์กรใช้ข้อได้เปรียบจากสารสนเทศได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้รับผลประโยชน์สูงสุด ใช้โอกาสทางธุรกิจ และเกิดความได้เปรียบเชิงแข่งขัน

เมื่อมองถึงบทบาทความสัมพันธ์ระหว่างกระบวนการของธรรมาภิบาลขององค์กร และ IT Governance ในรายละเอียด จะเห็นได้ว่าธรรมาภิบาลขององค์กรนั้น เป็นระบบซึ่งทำหน้าที่กำกับ ควบคุม ผลักดัน และกำหนด IT Governance ในขณะเดียวกันเทคโนโลยีสารสนเทศควรให้ข้อมูลที่สำคัญในการจัดทำแผนกลยุทธ์ และควรเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของแผนฯ อันที่จริงแล้วเทคโนโลยีสารสนเทศอาจมีอิทธิผลต่อโอกาสเชิงกลยุทธ์ที่องค์กรได้จัดร่างขึ้น

การกำหนดและผลักดันธรรมาภิบาลขององค์กรสู่ IT Governance

การกำหนดและผลักดันธรรมาภิบาลขององค์กรสู่ IT Governance

กิจกรรมขององค์กรต้องการข้อมูลที่ได้มาจากการทำงานของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ในอันที่จะบรรลุถึงวัตถุประสงค์ขององค์กร องค์กรที่ประสบความสำเร็จต้องแน่ใจได้ว่า กิจกรรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการวางแผนกลยุทธ์นั้นมีความสัมพันธ์กัน เทคโนโลยีสารสนเทศจะต้องสอดคล้องกับองค์กร และช่วยให้องค์กรใช้ข้อได้เปรียบจากสารสนเทศได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้รับผลประโยชน์สูงสุด ใช้โอกาสทางธุรกิจ และเกิดความได้เปรียบเชิงแข่งขัน

กิจกรรมขององค์กรต้องการข้อมูลจากกิจกรรมด้าน IT Governance

กิจกรรมขององค์กรต้องการข้อมูลจากกิจกรรมด้าน IT Governance

องค์กรมักได้รับการกำกับดูแลด้วยแนวทางการปฏิบัติที่ดี (หรือที่เป็นเลิศ) ซึ่งเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป เพื่อให้แน่ใจได้ว่าองค์กรจะสามารถบรรลุถึงเป้าหมาย โดยมีการควบคุมบางประการเพื่อรับประกันในเรื่องดังกล่าว วัตถุประสงค์เหล่านี้ช่วยให้เกิดการดำเนินงานไปตามทิศทางขององค์กร ซึ่งกำหนดกิจกรรมต่าง ๆ ที่ใช้ทรัพยากรขององค์กร ผลของการดำเนินกิจกรรมจะต้องได้รับการวัดผลและการรายงาน เพื่อเป็นข้อมูลในการปรับปรุงและบำรุงรักษามาตรการการควบคุมอย่างสม่ำเสมอ

ธรรมาภิบาลขององค์กร

ธรรมาภิบาลขององค์กร

เทคโนโลยีสารสนเทศถูกกำกับโดยวิธีการปฏิบัติที่ดี (หรือเป็นเลิศ) เพื่อแน่ใจได้ว่าสารสนเทศขององค์กรและเทคโนโลยีที่นำมาใช้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของธุรกิจ รวมถึงการนำทรัพยากรไปใช้อย่างรับผิดชอบ และการจัดการความเสี่ยงเป็นไปอย่างเหมาะสม วิธีการปฏิบัติเหล่านี้เป็นพื้นฐานของการกำหนดทิศทางในกิจกรรมต่าง ๆ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้แก่การวางแผนและจัดองค์กร การจัดหาและการนำระบบงานออกใช้งานจริง การส่งมอบและการสนับสนุน และการเฝ้าติดตาม โดยมีจุดประสงค์ทั้งสองประการคือ การจัดการความเสี่ยง (เพื่อให้มีความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และการปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับ) การได้รับผลประโยชน์ (การเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล) และให้มีการรายงานผลการทำงานของกิจกรรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งมีการวัดผลเปรียบเทียบกับวิธีการปฏิบัติและการควบคุมอื่น ๆ


IT Governance & Control Objective to Environmental Control (ต่อ)

เมษายน 9, 2009

จากครั้งก่อนที่ได้กล่าวถึงกิจกรรมด้าน IT Governance โดยสรุปไปแล้ว ครั้งนี้ผมจะนำเสนอแนวทางในการกำหนดกิจกรรมหลักของ IT Governance ต่อเลยครับ

การที่จะประสบความสำเร็จในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ ธรรมาภิบาลขององค์กร และ IT Governance ไม่สามารถแยกกันหรือใช้กฎเกณฑ์ที่แตกต่างกันได้อีกต่อไป ธรรมาภิบาลขององค์กรที่มีประสิทธิภาพ มุ่งเน้นความชำนาญและประสบการณ์ทั้งปัจเจกบุคคลและของหมู่คณะ ซึ่งก่อให้เกิดผลสูงสุด เฝ้าติดตามและวัดผลการดำเนินงาน และรับประกันการแก้ปัญหาวิกฤต เทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งเดิมได้รับการพิจารณาว่าเป็นเพียงปัจจัยหนุนกลยุทธ์ของธุรกิจมาเป็นเวลานาน ปัจจุบันได้รับการพิจารณาให้รวมอยู่เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของธุรกิจ

IT Governance มีโครงสร้างที่เชื่อมโยง กระบวนการทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT process) ทรัพยากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT resource) และสารสนเทศ (Information) ควบคู่ไปกับกลยุทธ์และวัตถุประสงค์ของธุรกิจ IT Governanceได้รวบรวมและจัดให้มีวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการวางแผนและการจัดองค์กร การจัดหาและการนำระบบออกใช้งานจริง การส่งมอบและการสนับสนุน และการเฝ้าติดตามการดำเนินงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ IT Governance ถูกรวมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในธรรมาภิบาลขององค์กร โดยรับประกันในเรื่องการปรับปรุงที่สามารถวัดผลได้ทางด้านประสิทธิภาพและประสิทธิผลของกระบวนการทางธุรกิจ IT Governance ช่วยให้องค์กรใช้ข้อได้เปรียบจากสารสนเทศได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้รับผลประโยชน์สูงสุด ใช้โอกาสทางธุรกิจ และเกิดความได้เปรียบเชิงแข่งขัน

เมื่อมองถึงบทบาทความสัมพันธ์ระหว่างกระบวนการของธรรมาภิบาลขององค์กร และ IT Governance ในรายละเอียด จะเห็นได้ว่าธรรมาภิบาลขององค์กรนั้น เป็นระบบซึ่งทำหน้าที่กำกับ ควบคุม ผลักดัน และกำหนด IT Governance ในขณะเดียวกันเทคโนโลยีสารสนเทศควรให้ข้อมูลที่สำคัญในการจัดทำแผนกลยุทธ์ และควรเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของแผนฯ อันที่จริงแล้วเทคโนโลยีสารสนเทศอาจมีอิทธิผลต่อโอกาสเชิงกลยุทธ์ที่องค์กรได้จัดร่างขึ้น

การกำหนดและผลักดันธรรมาภิบาลขององค์กรสู่ IT Governance

การกำหนดและผลักดันธรรมาภิบาลขององค์กรสู่ IT Governance

กิจกรรมขององค์กรต้องการข้อมูลที่ได้มาจากการทำงานของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ในอันที่จะบรรลุถึงวัตถุประสงค์ขององค์กร องค์กรที่ประสบความสำเร็จต้องแน่ใจได้ว่า กิจกรรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการวางแผนกลยุทธ์นั้นมีความสัมพันธ์กัน เทคโนโลยีสารสนเทศจะต้องสอดคล้องกับองค์กร และช่วยให้องค์กรใช้ข้อได้เปรียบจากสารสนเทศได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้รับผลประโยชน์สูงสุด ใช้โอกาสทางธุรกิจ และเกิดความได้เปรียบเชิงแข่งขัน

กิจกรรมขององค์กรต้องการข้อมูลจากกิจกรรมด้าน IT Governance

กิจกรรมขององค์กรต้องการข้อมูลจากกิจกรรมด้าน IT Governance

องค์กรมักได้รับการกำกับดูแลด้วยแนวทางการปฏิบัติที่ดี (หรือที่เป็นเลิศ) ซึ่งเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป เพื่อให้แน่ใจได้ว่าองค์กรจะสามารถบรรลุถึงเป้าหมาย โดยมีการควบคุมบางประการเพื่อรับประกันในเรื่องดังกล่าว วัตถุประสงค์เหล่านี้ช่วยให้เกิดการดำเนินงานไปตามทิศทางขององค์กร ซึ่งกำหนดกิจกรรมต่าง ๆ ที่ใช้ทรัพยากรขององค์กร ผลของการดำเนินกิจกรรมจะต้องได้รับการวัดผลและการรายงาน เพื่อเป็นข้อมูลในการปรับปรุงและบำรุงรักษามาตรการการควบคุมอย่างสม่ำเสมอ

ธรรมาภิบาลขององค์กร

ธรรมาภิบาลขององค์กร

เทคโนโลยีสารสนเทศถูกกำกับโดยวิธีการปฏิบัติที่ดี (หรือเป็นเลิศ) เพื่อแน่ใจได้ว่าสารสนเทศขององค์กรและเทคโนโลยีที่นำมาใช้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของธุรกิจ รวมถึงการนำทรัพยากรไปใช้อย่างรับผิดชอบ และการจัดการความเสี่ยงเป็นไปอย่างเหมาะสม วิธีการปฏิบัติเหล่านี้เป็นพื้นฐานของการกำหนดทิศทางในกิจกรรมต่าง ๆ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้แก่การวางแผนและจัดองค์กร การจัดหาและการนำระบบงานออกใช้งานจริง การส่งมอบและการสนับสนุน และการเฝ้าติดตาม โดยมีจุดประสงค์ทั้งสองประการคือ การจัดการความเสี่ยง (เพื่อให้มีความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และการปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับ) การได้รับผลประโยชน์ (การเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล) และให้มีการรายงานผลการทำงานของกิจกรรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งมีการวัดผลเปรียบเทียบกับวิธีการปฏิบัติและการควบคุมอื่น ๆ


IT Governance & Control Objective to Environmental Control (ต่อ)

เมษายน 7, 2009

ครั้งก่อนผมได้เล่าสู่กันฟังถึงแนวคิดหลัก และหลักการในการกำหนดกรอบของ IT Governance รวมถึงความสัมพันธ์ของ IT Governance กับ Corporate Governance ที่มีความสัมพันธ์แบบพึ่งพากัน ในวันนี้เราจะมาพูดคุยต่อถึงปัจจัยที่ใช้วัดความสำเร็จที่เกี่ยวกับ IT Governance รวมถึงบทบาท หน้าที่ของฝ่ายตรวจสอบ คณะกรรมการและผู้บริหารขององค์กรที่เกี่ยวข้องกับ IT Governance กันครับ

ปัจจัยที่ใช้วัดความสำเร็จที่เกี่ยวกับ IT Governance โดยย่อ
ปัจจัยที่ใช้วัดความสำเร็จทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และ IT Governance ที่สำคัญ ซึ่งจะเชื่อมโยงนำไปสู่ความสำเร็จขององค์กรโดยรวม จะพิจารณาทางด้านกฎหมาย ด้านการจัดองค์กร และกระบวนการปฏิบัติงานทั่วทั้งองค์กร ไม่ว่าจะใช้โปรแกรมประยุกต์เพื่อการบริหารทรัพยากรทั่วทั้งองค์กรด้านเทคนิค ซึ่งอาจเป็นระบบ Enterprise Resource Planning (ERP) หรือไม่ก็ตาม การวางแผน การปฏิบัติ การสอบทาน และการแก้ไข เพื่อนำไปสู่ความคิดในการพัฒนางานด้าน IT Governance ให้เป็นส่วนหนึ่งของการกำกับดูแลกิจการที่ดีขององค์กร (GCG – Good Corporate Governance) นั้น เป็นทั้งหน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการ และผู้บริหารระดับสูงของทุกองค์กร

สำหรับการบริหาร IT Governance เท่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เมื่อเทียบกับมาตรฐานที่ใช้ในการประเมินผลการบริหารความเสี่ยงด้าน IT Governance ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินระดับการบริหารความเสี่ยงขององค์กรนั้น มีข้อควรพิจารณาปรับปรุงบางประการ เช่น BCP-Business Continuity Plan การบริหารสภาพแวดล้อมของศูนย์คอมพิวเตอร์หลัก โดยการจัดให้มีการควบคุมสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมตามมาตรฐาน ที่วัดได้ ปฎิบัติได้ โดยมี Performance Measurement ที่เหมาะสม

การจัดให้มีกระบวนการสร้างความมั่นใจถึงความสมดุลระหว่างผลตอบแทนจากการลงทุนและการจัดการด้าน เทคโนโลยีสารสนเทศ กับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

การสร้างเกณฑ์วัดคุณภาพงานและผลสำเร็จของกลยุทธ์ หรือนโยบาย และการจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศตามที่กำหนดไว้ เช่น กลยุทธ์ หรือนโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ในการสนับสนุนให้องค์กรมีผลตอบแทนจากการลงทุนที่มากขึ้น กลยุทธ์หรือนโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในการกำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานขององค์กร เป็นต้น

บทบาทของฝ่ายตรวจสอบที่เกี่ยวข้องกับ IT Governance
ฝ่ายตรวจสอบควรมีบทบาทในฐานะเป็นผู้ให้คำแนะนำ และสร้างคุณค่าเพิ่มในการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรฐานการตรวจสอบภายในของทุกสายงาน และในฐานะผู้ประเมินคุณภาพการบริหารความเสี่ยง การควบคุมภายในทางด้านต่าง ๆ เช่น
1. คุณภาพของการปฏิบัติงาน (Operational)
2. คุณภาพทางด้านการปฏิบัติตามนโยบาย กฎเกณฑ์ ระเบียบ คำสั่ง (Compliance)
3. คุณภาพด้านการเงิน และการรายงาน (Financial) รวมทั้งการให้คำแนะนำด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และ IT Governance
4. การตรวจสอบทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมทั้งการใช้ Outsource เพื่อเป้าหมายดังกล่าว รวมทั้งมุมมองที่กว้างกว่านั้น องค์กรควรวางกรอบความต้องการของตนให้ชัดเจนเพื่อความคุ้มค่าในการดำเนินงาน เพราะการตรวจสอบด้านเทคโนโลยียุคใหม่จะเป็นการตรวจสอบการจัดการความเสี่ยงทางด้าน IT Governance โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจสอบความสามารถในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง (BCM – Business Continuity Management) และ Control Objective ไปสู่ Business Process เพื่อก้าวไปสู่ Business Objective ขององค์กร โดยเน้นหลักการ Best Practice

บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการและผู้บริหารขององค์กรเกี่ยวกับ IT Governance
1. นำกรอบงานธรรมาภิบาลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Governance) มาใช้ในองค์กร
2. กำหนดกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่สอดคล้องกับเป้าหมายการทำธุรกิจ
3. การเชื่อมโยงกลยุทธ์ และเป้าหมายลงไปในแต่ละระดับขององค์กร
4. กำหนดโครงสร้างองค์กรที่ช่วยสนับสนุนการดำเนินงานตามกลยุทธ์ที่วางไว้
5. นำกรอบงานด้านการควบคุมเทคโนโลยีสารสนเทศ และด้าน IT Governance มาใช้
6. จัดให้มีโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีที่ช่วยสนับสนุนการสร้างสารสนเทศทางธุรกิจและการใช้สารสนเทศดังกล่าวร่วมกัน
7. การผนวกรวมความรับผิดชอบด้านการบริหารความเสี่ยงไว้ในองค์กร
8. มุ่งเน้นกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศที่สำคัญ และความสามารถหลักของเทคโนโลยีสารสนเทศ (Core IT Competencies)
9. วัดผลการดำเนินงาน (Balanced Business Scorecard)

กิจกรรมด้าน IT Governance โดยสรุป
1. กำหนด IT Master Plan วิธีการปฏิบัติงานใหม่ที่มีกระบวนการที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และคำนึงถึงผลกระทบทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีต่อองค์กรและวิธีการทำงานใหม่ ๆ
2. กำหนดความคาดหวังและผลตอบแทน เพื่อกำหนดแนวทางการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างคุ้มค่า
3. มีการพิจารณา Physical Security และ Information Security Governance ที่เป็นรูปธรรมโดยเฉพาะจากข้อกำหนดของหน่วยงานภาครัฐฯ และบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง
4. กำหนดหน้าที่ ความรับผิดชอบ การประสานงาน การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของแต่ละสายงานทั่วทั้งองค์กรที่สามารถทำงานกับสายงานได้อย่างลงตัว
5. การพิจารณาใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสนับสนุนกระบวนการปฏิบัติงาน ทั้งภายในและภายนอกองค์กรอย่างสอดคล้อง และต่อเนื่องทั่วถึงกันทุกระบบที่สำคัญขององค์กร
6. กำหนดจุดควบคุมของทุกกระบวนการ และมีการสอบทานติดตามในกระบวนการปฏิบัติงาน
7. รวบรวม และบริหารทรัพยากรอย่างผสมผสานระหว่าง IT Process และ Business Process ตั้งแต่การวางแผนการจัดองค์กร การพนักงาน การกำกับไปจนถึงการติดตาม
8. การบริหารและจัดการกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั่วทั้งองค์กร ที่รวมทั้งความเสี่ยงทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศตามคุณลักษณะที่ดี
9.จัดให้มีการวัดผลการปฏิบัติงานทุกสายงาน และภาพโดยรวมขององค์กร โดยเน้นการพลิกฟื้นด้านปฏิบัติการ (Operation Turnaround) การพลิกโฉมทางยุทธศาสตร์ (Strategic Turnaround)
10. สอบทาน และรับรองคุณภาพของผลการปฏิบัติงานโดยรวม จากการมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และ IT Governance
11. การพิจารณาความดีความชอบจากการบริหาร และการปฏิบัติงานด้าน IT Governance อย่างผสมผสานทั่วทั้งองค์กรในส่วนที่เกี่ยวข้อง


IT Governance & Control Objective to Environmental Control (ต่อ)

เมษายน 7, 2009

ครั้งก่อนผมได้เล่าสู่กันฟังถึงแนวคิดหลัก และหลักการในการกำหนดกรอบของ IT Governance รวมถึงความสัมพันธ์ของ IT Governance กับ Corporate Governance ที่มีความสัมพันธ์แบบพึ่งพากัน ในวันนี้เราจะมาพูดคุยต่อถึงปัจจัยที่ใช้วัดความสำเร็จที่เกี่ยวกับ IT Governance รวมถึงบทบาท หน้าที่ของฝ่ายตรวจสอบ คณะกรรมการและผู้บริหารขององค์กรที่เกี่ยวข้องกับ IT Governance กันครับ

ปัจจัยที่ใช้วัดความสำเร็จที่เกี่ยวกับ IT Governance โดยย่อ
ปัจจัยที่ใช้วัดความสำเร็จทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และ IT Governance ที่สำคัญ ซึ่งจะเชื่อมโยงนำไปสู่ความสำเร็จขององค์กรโดยรวม จะพิจารณาทางด้านกฎหมาย ด้านการจัดองค์กร และกระบวนการปฏิบัติงานทั่วทั้งองค์กร ไม่ว่าจะใช้โปรแกรมประยุกต์เพื่อการบริหารทรัพยากรทั่วทั้งองค์กรด้านเทคนิค ซึ่งอาจเป็นระบบ Enterprise Resource Planning (ERP) หรือไม่ก็ตาม การวางแผน การปฏิบัติ การสอบทาน และการแก้ไข เพื่อนำไปสู่ความคิดในการพัฒนางานด้าน IT Governance ให้เป็นส่วนหนึ่งของการกำกับดูแลกิจการที่ดีขององค์กร (GCG – Good Corporate Governance) นั้น เป็นทั้งหน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการ และผู้บริหารระดับสูงของทุกองค์กร

สำหรับการบริหาร IT Governance เท่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เมื่อเทียบกับมาตรฐานที่ใช้ในการประเมินผลการบริหารความเสี่ยงด้าน IT Governance ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินระดับการบริหารความเสี่ยงขององค์กรนั้น มีข้อควรพิจารณาปรับปรุงบางประการ เช่น BCP-Business Continuity Plan การบริหารสภาพแวดล้อมของศูนย์คอมพิวเตอร์หลัก โดยการจัดให้มีการควบคุมสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมตามมาตรฐาน ที่วัดได้ ปฎิบัติได้ โดยมี Performance Measurement ที่เหมาะสม

การจัดให้มีกระบวนการสร้างความมั่นใจถึงความสมดุลระหว่างผลตอบแทนจากการลงทุนและการจัดการด้าน เทคโนโลยีสารสนเทศ กับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

การสร้างเกณฑ์วัดคุณภาพงานและผลสำเร็จของกลยุทธ์ หรือนโยบาย และการจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศตามที่กำหนดไว้ เช่น กลยุทธ์ หรือนโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ในการสนับสนุนให้องค์กรมีผลตอบแทนจากการลงทุนที่มากขึ้น กลยุทธ์หรือนโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในการกำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานขององค์กร เป็นต้น

บทบาทของฝ่ายตรวจสอบที่เกี่ยวข้องกับ IT Governance
ฝ่ายตรวจสอบควรมีบทบาทในฐานะเป็นผู้ให้คำแนะนำ และสร้างคุณค่าเพิ่มในการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรฐานการตรวจสอบภายในของทุกสายงาน และในฐานะผู้ประเมินคุณภาพการบริหารความเสี่ยง การควบคุมภายในทางด้านต่าง ๆ เช่น
1. คุณภาพของการปฏิบัติงาน (Operational)
2. คุณภาพทางด้านการปฏิบัติตามนโยบาย กฎเกณฑ์ ระเบียบ คำสั่ง (Compliance)
3. คุณภาพด้านการเงิน และการรายงาน (Financial) รวมทั้งการให้คำแนะนำด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และ IT Governance
4. การตรวจสอบทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมทั้งการใช้ Outsource เพื่อเป้าหมายดังกล่าว รวมทั้งมุมมองที่กว้างกว่านั้น องค์กรควรวางกรอบความต้องการของตนให้ชัดเจนเพื่อความคุ้มค่าในการดำเนินงาน เพราะการตรวจสอบด้านเทคโนโลยียุคใหม่จะเป็นการตรวจสอบการจัดการความเสี่ยงทางด้าน IT Governance โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจสอบความสามารถในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง (BCM – Business Continuity Management) และ Control Objective ไปสู่ Business Process เพื่อก้าวไปสู่ Business Objective ขององค์กร โดยเน้นหลักการ Best Practice

บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการและผู้บริหารขององค์กรเกี่ยวกับ IT Governance
1. นำกรอบงานธรรมาภิบาลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Governance) มาใช้ในองค์กร
2. กำหนดกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่สอดคล้องกับเป้าหมายการทำธุรกิจ
3. การเชื่อมโยงกลยุทธ์ และเป้าหมายลงไปในแต่ละระดับขององค์กร
4. กำหนดโครงสร้างองค์กรที่ช่วยสนับสนุนการดำเนินงานตามกลยุทธ์ที่วางไว้
5. นำกรอบงานด้านการควบคุมเทคโนโลยีสารสนเทศ และด้าน IT Governance มาใช้
6. จัดให้มีโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีที่ช่วยสนับสนุนการสร้างสารสนเทศทางธุรกิจและการใช้สารสนเทศดังกล่าวร่วมกัน
7. การผนวกรวมความรับผิดชอบด้านการบริหารความเสี่ยงไว้ในองค์กร
8. มุ่งเน้นกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศที่สำคัญ และความสามารถหลักของเทคโนโลยีสารสนเทศ (Core IT Competencies)
9. วัดผลการดำเนินงาน (Balanced Business Scorecard)

กิจกรรมด้าน IT Governance โดยสรุป
1. กำหนด IT Master Plan วิธีการปฏิบัติงานใหม่ที่มีกระบวนการที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และคำนึงถึงผลกระทบทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีต่อองค์กรและวิธีการทำงานใหม่ ๆ
2. กำหนดความคาดหวังและผลตอบแทน เพื่อกำหนดแนวทางการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างคุ้มค่า
3. มีการพิจารณา Physical Security และ Information Security Governance ที่เป็นรูปธรรมโดยเฉพาะจากข้อกำหนดของหน่วยงานภาครัฐฯ และบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง
4. กำหนดหน้าที่ ความรับผิดชอบ การประสานงาน การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของแต่ละสายงานทั่วทั้งองค์กรที่สามารถทำงานกับสายงานได้อย่างลงตัว
5. การพิจารณาใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสนับสนุนกระบวนการปฏิบัติงาน ทั้งภายในและภายนอกองค์กรอย่างสอดคล้อง และต่อเนื่องทั่วถึงกันทุกระบบที่สำคัญขององค์กร
6. กำหนดจุดควบคุมของทุกกระบวนการ และมีการสอบทานติดตามในกระบวนการปฏิบัติงาน
7. รวบรวม และบริหารทรัพยากรอย่างผสมผสานระหว่าง IT Process และ Business Process ตั้งแต่การวางแผนการจัดองค์กร การพนักงาน การกำกับไปจนถึงการติดตาม
8. การบริหารและจัดการกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั่วทั้งองค์กร ที่รวมทั้งความเสี่ยงทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศตามคุณลักษณะที่ดี
9.จัดให้มีการวัดผลการปฏิบัติงานทุกสายงาน และภาพโดยรวมขององค์กร โดยเน้นการพลิกฟื้นด้านปฏิบัติการ (Operation Turnaround) การพลิกโฉมทางยุทธศาสตร์ (Strategic Turnaround)
10. สอบทาน และรับรองคุณภาพของผลการปฏิบัติงานโดยรวม จากการมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และ IT Governance
11. การพิจารณาความดีความชอบจากการบริหาร และการปฏิบัติงานด้าน IT Governance อย่างผสมผสานทั่วทั้งองค์กรในส่วนที่เกี่ยวข้อง


IT Governance & Control Objective to Environmental Control

เมษายน 4, 2009

เพื่อให้ท่านผู้อ่านทราบถึงแนวคิดและหลักการ IT Governance ตามหลักการของ COBIT ที่คัดย่อมาจาก IT Governance Institute ที่ใช้กันทั่วไปและเป็นสากลในบางมุมมองที่เกี่ยวข้องกับ Control OBjective for Information and Technology ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารและการจัดการสารสนเทศที่ดีทางด้านการบริหารสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับคุณลักษณะที่ดี คือ ประสิทธิผล ประสิทธิภาพ การรักษาความลับ ความครบถ้วนถูกต้อง สภาพพร้อมใช้งาน การปฏิบัติตามกฎ ความเชื่อถือได้ ซึ่งมี 34 Process และหนึ่งในนั้นก็คือ การดำเนินธุรกิจที่ต่อเนื่องและการบริหารความเสี่ยง เพื่อสนับสนุนแนวทางของคณะอนุกรรมการบริหารความเสี่ยงในการใช้ปัจจัยในการประเมินที่เกี่ยวข้องกับ BCM และ Environmental Control ที่เกี่ยวกับมาตรฐาน EN 1047-2 บางมุมมอง วันนี้ผมจึงขอนำเสนอแนวคิด หลักการ และความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับ IT Governance & Control Objective to Environmental Control ตามหัวเรื่องที่ได้กล่าวไว้ครับ

แนวคิดหลักของ IT Governance คือ รูปแบบโครงสร้างของความสัมพันธ์ กระบวนการการจัดการและการปฏิบัติในองค์กรที่ผู้บริหารใช้กำกับ และควบคุมองค์กรให้บรรลุถึงเป้าประสงค์ โดยการสร้างมูลค่าเพิ่มให้เกิดขึ้น ในขณะเดียวกันก็สามารถสร้างความสมดุลในการจัดการกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้รับจาก เทคโนโลยีสารสนเทศ และจากกระบวนการที่เกี่ยวข้อง

สารสนเทศขององค์กรต้องสามารถตอบสนองความต้องการด้านคุณภาพ ความน่าเชื่อถือ และการรักษาความปลอดภัย เช่นเดียวกับสินทรัพย์อื่น ๆ หรือยิ่งกว่าสินทรัพย์อื่น ๆ เพราะหลายกรณี การดำเนินธุรกิจที่ต่อเนื่องเป็นความสำคัญยิ่งยวดที่มิอาจจะผลักภาระไปยังบุคคลอื่นหรือทำการประกันภัยใด ๆ เพื่อให้ความมั่นใจอย่างสมเหตุสมผลว่า ธุรกิจสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องตามหลักการ Business Continuity Management

ผู้บริหารควรเข้าใจถึงสถานภาพของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศขององค์กร และตัดสินใจว่าควรมีการดำเนินการควบคุม และสร้างศักยภาพอย่างไร จึงจะเหมาะสมอย่างผสมผสานกับธุรกิจเพื่อบรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดขององค์กร ทั้งนี้โดยคำนึงถึงคุณลักษณะสารสนเทศที่ดีและความสามารถในการบริหารทรัพยากรเทคโนโลยีสารสนเทศจาก 34 กระบวนการที่กำหนดไว้ภายใต้ 4 โดเมน / กรอบหลักของการบริหาร IT Governance

หลักการและความเป็นจริงในการกำหนดกรอบ IT Governance
ความจำเป็นที่ต้องมีการควบคุมการจัดการและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
1. การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) มีความก้าวหน้าขึ้นเป็นอันมาก ทำให้สารสนเทศสามารถส่งผ่านถึงผู้รับได้อย่างรวดเร็วโดยปราศจากข้อจำกัดด้านเวลา ระยะทาง และสถานที่ซึ่งมีผลถึงศักยภาพการแข่งขันอย่างสำคัญ
1.1. การพึ่งพาการใช้งานจากสารสนเทศ (Information) และระบบต่าง ๆ (Systems) ที่เพิ่มมากขึ้น
1.2. การเพิ่มขึ้นของการใช้สารสนเทศที่ใช้ในการพัฒนา Business Process และการให้บริการลูกค้า
1.3. การเปลี่ยนแปลงของต้นทุน และขนาดของการลงทุนของข้อมูล และ Information Systems ในปัจจุบัน และในอนาคต
1.4. ศักยภาพที่เพิ่มขึ้นของเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในองค์กร รวมทั้งปรับเปลี่ยนหลักการการจัดการ และการปฏิบัติงาน (Business Practices) ซึ่งก่อให้เกิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ และช่วยให้ต้นทุนลดลงด้วย

2. การแข่งขันที่รุนแรงขึ้นก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขององค์กรในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนระบบ และกระบวนการทำงานให้กระชับขึ้น โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยในการปรับปรุงเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น มีการปรับขนาดขององค์กรให้กระชับและมีความเหมาะสม มีการใช้บริการจากภายนอกมากขึ้น มีการกระจายอำนาจและปรับโครงสร้างองค์กรให้เป็นแนวราบมากขึ้น สิ่งเหล่านี้มีผลกระทบต่อการปฏิบัติงานทั้งขององค์กรเอกชนและองค์กรของรัฐบาล โดยเฉพาะการเน้นไปที่การได้เปรียบในด้านการแข่งขัน (Competitive Advantage) และการเกิดประสิทธิภาพด้านต้นทุน (Cost Efficiency) ซึ่งเป็นผลให้แต่ละองค์กรจำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้นและกลายเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญขององค์กร

การดำเนินธุรกิจที่ต่อเนื่องเป็นความสำคัญยิ่งยวดที่ทุกองค์กรจะต้องตระหนัก โดยจัดให้มีการบริหารความเสี่ยงในมุมมองต่าง ๆ ที่เหมาะสม ตั้งแต่ Logical Control และ Environmental Control เพราะความไม่แน่นอนในการพึ่งพา Offsite Backup มีความเสี่ยงสูงและเป็นความเสี่ยงที่ไม่อาจยอมรับได้ในหลาย ๆ กรณี เมื่อมีการศึกษา Business Impact Analysis

3. องค์กรต่าง ๆ มองเห็นความสำคัญของสารสนเทศและเทคโนโลยีที่พัฒนา อันถือได้ว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีค่ายิ่งโดยเฉพาะในโลกของการแข่งขันที่รุนแรง ผู้บริหารจะให้ความสำคัญ และความคาดหวังกับเทคโนโลยีสารสนเทศมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะการตอบสนองที่รวดเร็ว มีคุณภาพ สามารถใช้งานได้หลากหลาย และสะดวกต่อการใช้งาน โดยใช้เวลาน้อยลง เพิ่มระดับการบริการให้ดียิ่งขึ้น โดยมีต้นทุนที่ต่ำลง

4. องค์กรที่มีการปฏิบัติงานในระบบอัตโนมัติจำเป็นต้องมีกลไกในการควบคุมที่ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะการควบคุมทั้งระบบคอมพิวเตอร์ และระบบเครือข่าย (Network) ทั้งในด้านของ Hardware และ Software ซึ่งระบบการควบคุมจำเป็นต้องพัฒนาไปพร้อมกับการพัฒนาของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และเป็นไปแบบก้าวกระโดด

5. หลายองค์กรได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากเทคโนโลยี สำหรับองค์กรที่ประสบความสำเร็จก็มีความเข้าใจ และสามารถบริหารความเสี่ยงที่มาพร้อมกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้เกิดมากขึ้นเป็นลำดับ และรวดเร็ว จึงจำเป็นต้องมีการจัดการความเสี่ยงที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงนี้ให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดการกับข้อมูลที่เปิดเผย และข้อมูลที่เป็นความลับ รวมทั้งการนำข้อมูลไปใช้กระทำการที่ผิดกฎหมาย ดังนั้น การบริหารความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ เทคโนโลยีสารสนเทศ จึงกลายมาเป็นส่วนสำคัญในการกำกับดูแลกิจการที่ดีขององค์กรขององค์กร (Corporate Governance)

6. ที่ผ่านมาความต้องการในการมีกรอบมาตรฐาน (Framework) สำหรับการจัดการเรื่องความปลอดภัย และการควบคุมทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมีค่อนข้างมาก โดยเฉพาะองค์กรที่ประสบความสำเร็จต่าง ๆ ได้มีความเข้าใจ และประเมินค่าของความเสี่ยงเทียบกับข้อจำกัดในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในทุกระดับขององค์กร เพื่อให้มั่นใจว่าองค์กรจะสามารถมีการกำกับดูแลที่มีประสิทธิผล และมีการควบคุมที่เพียงพอ

7. ระดับบริหารจะต้องสามารถตัดสินใจได้ว่าควรจะลงทุน ณ ระดับใด ในเรื่องการรักษาความปลอดภัย และการควบคุม (Security and Control) และจะรักษาจุดสมดุลอย่างไร ระหว่างความเสี่ยงที่รับได้กับการลงทุนในด้านการควบคุม ถึงแม้การรักษาความปลอดภัย และการควบคุม (Security and Control) ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศจะช่วยในการบริหารความเสี่ยง แต่ความเสี่ยงก็ยังคงมีอยู่ไม่ได้ถูกกำจัดออกไปทั้งหมด เพราะไม่มีผู้ใดสามารถกำหนดระดับความเสี่ยงได้ชัดเจนแน่นอน

ดังนั้น ผู้บริหารจึงต้องกำหนดระดับความเสี่ยงที่รับได้ โดยเปรียบเทียบกับต้นทุนที่ต้องลงทุน ซึ่งถือได้ว่าเป็นการตัดสินใจที่ค่อนข้างยาก จึงจำเป็นต้องมีกรอบมาตรฐาน (Framework) เพื่อให้ทราบถึงการกำหนดนโยบายการรักษาความปลอดภัย และการควบคุมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยคำนึงถึงสภาวะของเทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบัน และที่จะเป็นในอนาคต

8. ระดับผู้ใช้ (Users) ก็ต้องมีความมั่นใจว่ามีการรักษาความปลอดภัย และการควบคุม (Security and Control) อย่างเพียงพอในการใช้งานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ไม่ว่าจะเป็นการใช้บริการจากภายในองค์กร หรือจากผู้ให้บริการจากภายนอก (Third Party) ก็ตามซึ่งที่ผ่านมาการควบคุมทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศจะค่อนข้างสับสนเนื่องจากมีมาตรฐานหลากหลายวิธีจากองค์กรต่าง ๆ

9. ระดับผู้ตรวจสอบ (Auditors) ก็จำเป็นจะต้องมีมาตรฐานสากลในการตรวจสอบ เนื่องจากจะต้องมีจุดยืนในการให้แนวคิด และเหตุผลเกี่ยวกับการตรวจสอบภายในกับระดับบริหาร ซึ่งถ้าปราศจากกรอบมาตรฐานแล้วจะหาจุดพิจารณาถึงระดับการรักษาความปลอดภัย และการควบคุม (Security and Control) ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสมได้ค่อนข้างยาก

ความสัมพันธ์ของ IT Governance กับ Corporate Governance
ธรรมาภิบาลทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Governance) เป็นส่วนสำคัญที่รวมอยู่ในความสำเร็จของธรรมาภิบาลขององค์กร (Corporate Governance) โดยจะเป็นจุดวัดของการปรับปรุงในด้านประสิทธิผล และประสิทธิภาพของกระบวนการปฏิบัติงานขององค์กร ธรรมาภิบาลขององค์กรจะเป็นกรอบในการกำหนดแนวทางสำหรับธรรมาภิบาลทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Governance) ส่วนกิจกรรม / กระบวนการต่าง ๆ ขององค์กรจะต้องใช้ข้อมูลจาก กิจกรรม / กระบวนการของเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีนัยสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะธุรกิจหลัก ๆ ขององค์กร

Corporate Governance เป็นผู้ขับเคลื่อน และกำหนดรูปแบบของ IT Governance ขณะเดียวกันเทคโนโลยีสารสนเทศก็ได้สนับสนุนข้อมูลที่จำเป็นต่าง ๆ เพื่อใช้ในการวางแผนด้านกลยุทธ์ (Strategic Planning) และในบางครั้งยังเป็นส่วนที่มีอิทธิพลในการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับองค์กร จึงถือได้ว่าเทคโนโลยีสารสนเทศ และการวางแผนด้านกลยุทธ์มีความสัมพันธ์แบบพึ่งพากัน โดยกิจกรรมในองค์กร (Corporate Activities) จำเป็นต้องใช้ข้อมูลจาก IT Activities เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ โดย IT Activities จะต้องสอดคล้องกับกิจกรรมในองค์กร และช่วยให้องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลอย่างเต็มที่ในการสร้างประโยชน์สูงสุด และได้ผลตอบแทนจากการลงทุนจากโอกาสทางธุรกิจต่าง ๆ รวมทั้งสามารถเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันมากขึ้น

โดยปกติแล้วองค์กรจะมีการกำกับ บริหาร และควบคุมโดยใช้หลักการจัดการ และการปฏิบัติที่เหมาะสมหรือที่ดีที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่าองค์กรจะสามารถบรรลุเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ที่ต้องการ โดยต้องมีการควบคุมที่ดีด้วย

และในขณะเดียวกันเทคโนโลยีสารสนเทศก็จำเป็นต้องมีการกำกับ บริหาร และควบคุมที่ดี โดยยึดหลักการของ Best Practices เช่นเดียวกัน เพื่อให้ข้อมูล และเทคโนโลยีที่ใช้ในองค์กร สามารถช่วยให้องค์กรบรรลุวัตถุประสงค์ทางธุรกิจได้ รวมทั้งการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ อย่างมีเหตุมีผล และมีการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม
องค์กร ควรสร้างคุณค่าเพิ่ม และความน่าเชื่อถือจากผู้มีผลประโยชน์ร่วมโดยการปรับปรุง Business Process และลดขนาดขององค์กร โดยจัดให้มีการจัดองค์กรใหม่อย่างเหมาะสมต่อไป


IT Governance & Control Objective to Environmental Control

เมษายน 4, 2009

เพื่อให้ท่านผู้อ่านทราบถึงแนวคิดและหลักการ IT Governance ตามหลักการของ COBIT ที่คัดย่อมาจาก IT Governance Institute ที่ใช้กันทั่วไปและเป็นสากลในบางมุมมองที่เกี่ยวข้องกับ Control OBjective for Information and Technology ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารและการจัดการสารสนเทศที่ดีทางด้านการบริหารสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับคุณลักษณะที่ดี คือ ประสิทธิผล ประสิทธิภาพ การรักษาความลับ ความครบถ้วนถูกต้อง สภาพพร้อมใช้งาน การปฏิบัติตามกฎ ความเชื่อถือได้ ซึ่งมี 34 Process และหนึ่งในนั้นก็คือ การดำเนินธุรกิจที่ต่อเนื่องและการบริหารความเสี่ยง เพื่อสนับสนุนแนวทางของคณะอนุกรรมการบริหารความเสี่ยงในการใช้ปัจจัยในการประเมินที่เกี่ยวข้องกับ BCM และ Environmental Control ที่เกี่ยวกับมาตรฐาน EN 1047-2 บางมุมมอง วันนี้ผมจึงขอนำเสนอแนวคิด หลักการ และความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับ IT Governance & Control Objective to Environmental Control ตามหัวเรื่องที่ได้กล่าวไว้ครับ

แนวคิดหลักของ IT Governance คือ รูปแบบโครงสร้างของความสัมพันธ์ กระบวนการการจัดการและการปฏิบัติในองค์กรที่ผู้บริหารใช้กำกับ และควบคุมองค์กรให้บรรลุถึงเป้าประสงค์ โดยการสร้างมูลค่าเพิ่มให้เกิดขึ้น ในขณะเดียวกันก็สามารถสร้างความสมดุลในการจัดการกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้รับจาก เทคโนโลยีสารสนเทศ และจากกระบวนการที่เกี่ยวข้อง

สารสนเทศขององค์กรต้องสามารถตอบสนองความต้องการด้านคุณภาพ ความน่าเชื่อถือ และการรักษาความปลอดภัย เช่นเดียวกับสินทรัพย์อื่น ๆ หรือยิ่งกว่าสินทรัพย์อื่น ๆ เพราะหลายกรณี การดำเนินธุรกิจที่ต่อเนื่องเป็นความสำคัญยิ่งยวดที่มิอาจจะผลักภาระไปยังบุคคลอื่นหรือทำการประกันภัยใด ๆ เพื่อให้ความมั่นใจอย่างสมเหตุสมผลว่า ธุรกิจสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องตามหลักการ Business Continuity Management

ผู้บริหารควรเข้าใจถึงสถานภาพของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศขององค์กร และตัดสินใจว่าควรมีการดำเนินการควบคุม และสร้างศักยภาพอย่างไร จึงจะเหมาะสมอย่างผสมผสานกับธุรกิจเพื่อบรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดขององค์กร ทั้งนี้โดยคำนึงถึงคุณลักษณะสารสนเทศที่ดีและความสามารถในการบริหารทรัพยากรเทคโนโลยีสารสนเทศจาก 34 กระบวนการที่กำหนดไว้ภายใต้ 4 โดเมน / กรอบหลักของการบริหาร IT Governance

หลักการและความเป็นจริงในการกำหนดกรอบ IT Governance
ความจำเป็นที่ต้องมีการควบคุมการจัดการและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
1. การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) มีความก้าวหน้าขึ้นเป็นอันมาก ทำให้สารสนเทศสามารถส่งผ่านถึงผู้รับได้อย่างรวดเร็วโดยปราศจากข้อจำกัดด้านเวลา ระยะทาง และสถานที่ซึ่งมีผลถึงศักยภาพการแข่งขันอย่างสำคัญ
1.1. การพึ่งพาการใช้งานจากสารสนเทศ (Information) และระบบต่าง ๆ (Systems) ที่เพิ่มมากขึ้น
1.2. การเพิ่มขึ้นของการใช้สารสนเทศที่ใช้ในการพัฒนา Business Process และการให้บริการลูกค้า
1.3. การเปลี่ยนแปลงของต้นทุน และขนาดของการลงทุนของข้อมูล และ Information Systems ในปัจจุบัน และในอนาคต
1.4. ศักยภาพที่เพิ่มขึ้นของเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในองค์กร รวมทั้งปรับเปลี่ยนหลักการการจัดการ และการปฏิบัติงาน (Business Practices) ซึ่งก่อให้เกิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ และช่วยให้ต้นทุนลดลงด้วย

2. การแข่งขันที่รุนแรงขึ้นก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขององค์กรในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนระบบ และกระบวนการทำงานให้กระชับขึ้น โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยในการปรับปรุงเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น มีการปรับขนาดขององค์กรให้กระชับและมีความเหมาะสม มีการใช้บริการจากภายนอกมากขึ้น มีการกระจายอำนาจและปรับโครงสร้างองค์กรให้เป็นแนวราบมากขึ้น สิ่งเหล่านี้มีผลกระทบต่อการปฏิบัติงานทั้งขององค์กรเอกชนและองค์กรของรัฐบาล โดยเฉพาะการเน้นไปที่การได้เปรียบในด้านการแข่งขัน (Competitive Advantage) และการเกิดประสิทธิภาพด้านต้นทุน (Cost Efficiency) ซึ่งเป็นผลให้แต่ละองค์กรจำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้นและกลายเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญขององค์กร

การดำเนินธุรกิจที่ต่อเนื่องเป็นความสำคัญยิ่งยวดที่ทุกองค์กรจะต้องตระหนัก โดยจัดให้มีการบริหารความเสี่ยงในมุมมองต่าง ๆ ที่เหมาะสม ตั้งแต่ Logical Control และ Environmental Control เพราะความไม่แน่นอนในการพึ่งพา Offsite Backup มีความเสี่ยงสูงและเป็นความเสี่ยงที่ไม่อาจยอมรับได้ในหลาย ๆ กรณี เมื่อมีการศึกษา Business Impact Analysis

3. องค์กรต่าง ๆ มองเห็นความสำคัญของสารสนเทศและเทคโนโลยีที่พัฒนา อันถือได้ว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีค่ายิ่งโดยเฉพาะในโลกของการแข่งขันที่รุนแรง ผู้บริหารจะให้ความสำคัญ และความคาดหวังกับเทคโนโลยีสารสนเทศมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะการตอบสนองที่รวดเร็ว มีคุณภาพ สามารถใช้งานได้หลากหลาย และสะดวกต่อการใช้งาน โดยใช้เวลาน้อยลง เพิ่มระดับการบริการให้ดียิ่งขึ้น โดยมีต้นทุนที่ต่ำลง

4. องค์กรที่มีการปฏิบัติงานในระบบอัตโนมัติจำเป็นต้องมีกลไกในการควบคุมที่ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะการควบคุมทั้งระบบคอมพิวเตอร์ และระบบเครือข่าย (Network) ทั้งในด้านของ Hardware และ Software ซึ่งระบบการควบคุมจำเป็นต้องพัฒนาไปพร้อมกับการพัฒนาของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และเป็นไปแบบก้าวกระโดด

5. หลายองค์กรได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากเทคโนโลยี สำหรับองค์กรที่ประสบความสำเร็จก็มีความเข้าใจ และสามารถบริหารความเสี่ยงที่มาพร้อมกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้เกิดมากขึ้นเป็นลำดับ และรวดเร็ว จึงจำเป็นต้องมีการจัดการความเสี่ยงที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงนี้ให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดการกับข้อมูลที่เปิดเผย และข้อมูลที่เป็นความลับ รวมทั้งการนำข้อมูลไปใช้กระทำการที่ผิดกฎหมาย ดังนั้น การบริหารความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ เทคโนโลยีสารสนเทศ จึงกลายมาเป็นส่วนสำคัญในการกำกับดูแลกิจการที่ดีขององค์กรขององค์กร (Corporate Governance)

6. ที่ผ่านมาความต้องการในการมีกรอบมาตรฐาน (Framework) สำหรับการจัดการเรื่องความปลอดภัย และการควบคุมทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมีค่อนข้างมาก โดยเฉพาะองค์กรที่ประสบความสำเร็จต่าง ๆ ได้มีความเข้าใจ และประเมินค่าของความเสี่ยงเทียบกับข้อจำกัดในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในทุกระดับขององค์กร เพื่อให้มั่นใจว่าองค์กรจะสามารถมีการกำกับดูแลที่มีประสิทธิผล และมีการควบคุมที่เพียงพอ

7. ระดับบริหารจะต้องสามารถตัดสินใจได้ว่าควรจะลงทุน ณ ระดับใด ในเรื่องการรักษาความปลอดภัย และการควบคุม (Security and Control) และจะรักษาจุดสมดุลอย่างไร ระหว่างความเสี่ยงที่รับได้กับการลงทุนในด้านการควบคุม ถึงแม้การรักษาความปลอดภัย และการควบคุม (Security and Control) ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศจะช่วยในการบริหารความเสี่ยง แต่ความเสี่ยงก็ยังคงมีอยู่ไม่ได้ถูกกำจัดออกไปทั้งหมด เพราะไม่มีผู้ใดสามารถกำหนดระดับความเสี่ยงได้ชัดเจนแน่นอน

ดังนั้น ผู้บริหารจึงต้องกำหนดระดับความเสี่ยงที่รับได้ โดยเปรียบเทียบกับต้นทุนที่ต้องลงทุน ซึ่งถือได้ว่าเป็นการตัดสินใจที่ค่อนข้างยาก จึงจำเป็นต้องมีกรอบมาตรฐาน (Framework) เพื่อให้ทราบถึงการกำหนดนโยบายการรักษาความปลอดภัย และการควบคุมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยคำนึงถึงสภาวะของเทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบัน และที่จะเป็นในอนาคต

8. ระดับผู้ใช้ (Users) ก็ต้องมีความมั่นใจว่ามีการรักษาความปลอดภัย และการควบคุม (Security and Control) อย่างเพียงพอในการใช้งานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ไม่ว่าจะเป็นการใช้บริการจากภายในองค์กร หรือจากผู้ให้บริการจากภายนอก (Third Party) ก็ตามซึ่งที่ผ่านมาการควบคุมทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศจะค่อนข้างสับสนเนื่องจากมีมาตรฐานหลากหลายวิธีจากองค์กรต่าง ๆ

9. ระดับผู้ตรวจสอบ (Auditors) ก็จำเป็นจะต้องมีมาตรฐานสากลในการตรวจสอบ เนื่องจากจะต้องมีจุดยืนในการให้แนวคิด และเหตุผลเกี่ยวกับการตรวจสอบภายในกับระดับบริหาร ซึ่งถ้าปราศจากกรอบมาตรฐานแล้วจะหาจุดพิจารณาถึงระดับการรักษาความปลอดภัย และการควบคุม (Security and Control) ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสมได้ค่อนข้างยาก

ความสัมพันธ์ของ IT Governance กับ Corporate Governance
ธรรมาภิบาลทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Governance) เป็นส่วนสำคัญที่รวมอยู่ในความสำเร็จของธรรมาภิบาลขององค์กร (Corporate Governance) โดยจะเป็นจุดวัดของการปรับปรุงในด้านประสิทธิผล และประสิทธิภาพของกระบวนการปฏิบัติงานขององค์กร ธรรมาภิบาลขององค์กรจะเป็นกรอบในการกำหนดแนวทางสำหรับธรรมาภิบาลทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Governance) ส่วนกิจกรรม / กระบวนการต่าง ๆ ขององค์กรจะต้องใช้ข้อมูลจาก กิจกรรม / กระบวนการของเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีนัยสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะธุรกิจหลัก ๆ ขององค์กร

Corporate Governance เป็นผู้ขับเคลื่อน และกำหนดรูปแบบของ IT Governance ขณะเดียวกันเทคโนโลยีสารสนเทศก็ได้สนับสนุนข้อมูลที่จำเป็นต่าง ๆ เพื่อใช้ในการวางแผนด้านกลยุทธ์ (Strategic Planning) และในบางครั้งยังเป็นส่วนที่มีอิทธิพลในการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับองค์กร จึงถือได้ว่าเทคโนโลยีสารสนเทศ และการวางแผนด้านกลยุทธ์มีความสัมพันธ์แบบพึ่งพากัน โดยกิจกรรมในองค์กร (Corporate Activities) จำเป็นต้องใช้ข้อมูลจาก IT Activities เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ โดย IT Activities จะต้องสอดคล้องกับกิจกรรมในองค์กร และช่วยให้องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลอย่างเต็มที่ในการสร้างประโยชน์สูงสุด และได้ผลตอบแทนจากการลงทุนจากโอกาสทางธุรกิจต่าง ๆ รวมทั้งสามารถเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันมากขึ้น

โดยปกติแล้วองค์กรจะมีการกำกับ บริหาร และควบคุมโดยใช้หลักการจัดการ และการปฏิบัติที่เหมาะสมหรือที่ดีที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่าองค์กรจะสามารถบรรลุเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ที่ต้องการ โดยต้องมีการควบคุมที่ดีด้วย

และในขณะเดียวกันเทคโนโลยีสารสนเทศก็จำเป็นต้องมีการกำกับ บริหาร และควบคุมที่ดี โดยยึดหลักการของ Best Practices เช่นเดียวกัน เพื่อให้ข้อมูล และเทคโนโลยีที่ใช้ในองค์กร สามารถช่วยให้องค์กรบรรลุวัตถุประสงค์ทางธุรกิจได้ รวมทั้งการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ อย่างมีเหตุมีผล และมีการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม
องค์กร ควรสร้างคุณค่าเพิ่ม และความน่าเชื่อถือจากผู้มีผลประโยชน์ร่วมโดยการปรับปรุง Business Process และลดขนาดขององค์กร โดยจัดให้มีการจัดองค์กรใหม่อย่างเหมาะสมต่อไป